ยังคงเป็นประเด็นที่จะต้องจับตากันต่อไปสำหรับการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้วกว่า 60 วัน แม้ขณะนี้จะมีสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ยังไม่ได้นายกรัฐมรตรี และคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องรอดูว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง ของที่ประชุมรัฐสภา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ จะได้นายกรัฐมนตรีคนทมี่ 30 หรือไม่?
ทั้งนี้หากย้อนดูรัฐบาลในอดีต ย้อนไปกว่า 30 ปีที่ผ่านมา การเลือกนายกรัฐมนตรี และการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ในแต่ละยุคแต่ละสมัยเกิดขึ้นได้รวดเร็วแค่ไหน?
รัฐบาล นายชวน หลีกภัย ปี 2535
ภายหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เมื่อวันที่ 13 ก.ยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 2535 พรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดย นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคในขณะนั้น ชนะเลือกต้ังโดยมี ส.ส.ในมือ 79 ที่นั่ง นำจัดตั้งรัฐบาลผสม 5 พรรรค ซึ่งในครั้งนั้นได้นายกรัฐมนตรี ภายในเวลา 10 วัน และได้คณะรัฐมนตรีภายใน 16 วัน โดยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 20
รัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา ปี 2538
ภายหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2538 พรรคชาติไทย ที่นำโดย นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคในขณะนั้น เอาชนะการเลือกตัง้ โดยได้รับคะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 มี ส.ส.ในมือ 92 ที่นั่ง จึงจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งในครั้งนั้นได้นายกรัฐมนตรี ภายในเวลา 11 วัน และได้คณะรัฐมนตรีภายใน 16 วัน โดยนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 21
รัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ปี 2539
ภายหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2539 พรรคความหวังใหม่ ที่นำโดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคในขณะนั้น ได้รับเลือกตั้ง โดยมี ส.ส.มากที่สุด 125 ที่นั่ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผสม 6 พรรค ซึ่งในครั้งนั้นได้นายกรัฐมนตรี ภายในเวลา 8วัน และได้คณะรัฐมนตรีภายใน 12 วัน โดยพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 22
โหวตนายก : สรุปผลโหวต “พิธา” ได้เสียงหนุน 324 เสียง พลาดนั่งนายกฯรอบแรก
กางไทม์ไลน์จัดตั้งรัฐบาล-เลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปี 2544
ภายหลังการหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2544 พรรคไทยรักไทย ที่นำโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคในขณะนั้น เอาชนะเลือกตั้ง โดยได้ ส.ส.มาเป็นอันดับหนึ่ง จำนวนกว่า 248 ที่นั่ง ซึ่งในครั้งนั้นได้นายกรัฐมนตรี ภายในเวลา 34 วัน และได้คณะรัฐมนตรีภายใน 42 วัน โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 23
รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปี 2548
ภายหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ทัวไป เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2548 พรรคไทยรักไทย ที่นำโดย พ.ต.ท.ทักษิณ หัวหน้าพรรคในขณะนั้น เอาชนยะการเลือกตั้ง โดยมี ส.ส. 377 ที่นั่ง สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ซึ่งในครั้งนั้นได้นายกรัฐมนตรี ภายในเวลา 31วัน และได้คณะรัฐมนตรีภายใน 33 วัน
รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ปี 2550
ภายหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2550 พรรคพลังประชาชน ที่นำโดย นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคในขณะนั้น ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 โดยมี ส.ส.ในมือ 233 ที่นั่ง จัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งในครั้งนั้นได้นายกรัฐมนตรี ภายในเวลา 36วัน และได้คณะรัฐมนตรีภายใน 45 วัน โดยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25
รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปี 2554
ภายหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2554 พรรคเพื่อไทยที่มี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เป็นหัวหน้าพรรค และมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ชนะการเลือกตั้ง โดยมี ส.ส.ในมือจำนวน 265 เสียง จัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งในครั้งนั้นได้นายกรัฐมนตรี ภายในเวลา 33 วัน และได้คณะรัฐมนตรีภายใน 37 วัน โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28
รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปี 2562
ภายหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 พรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้รับเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 2 ด้วยจำนวน ส.ส.ในมือ 116 คน สามารถรวมเสียงพรรคขนาดกลางและพรรคขนาดเล็ก จัดตั้งรัฐบาลจำนวน 26 พรรค ซึ่งในครั้งนั้นได้นายกรัฐมนตรี ภายในเวลา 73 วัน และได้คณะรัฐมนตรีภายใน 108 วัน โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29
นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ปี 2566
ภายหลังการเลืกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 พรรคก้าวไกล ที่นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ ชนะการเลือกตั้งโดยได้ ส.ส.ในมือ 151 เสียง และสามารถรวมเสียงข้างมาก 312 เสียง จาก 8 พรรคการเมือง แต่ผ่านการเลือกตั้งไปแล้วกว่า 60 วัน ยังไม่สามารถได้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้
ทั้งนี้จะต้องรอดูว่าในการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือหนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 ก.ค.นี้ จะสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้หรือไม่ และใครจะได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
อย่างไรก็ตามสำหรับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีโดยรัฐสภานั้น รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้กำหนดระยะเวลาดังกล่าวไว้ว่าต้องทำให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลากี่วัน ซึ่งแตกต่างจากรัฐธรรมนูญ 2550 ที่จะกำหนดเวลาไว้ 30 วัน หากพ้น 30 วัน ยังไม่มีใครได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งให้ผู้ได้คะแนนสูงสุดเป็นนายกฯ